สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จากการกลายพันธ์ของเชื้อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพลดลงกับเชื้อชนิดใหม่เมื่อเทียบกับเชื้อชนิดดั้งเดิม ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลก การฟื้นฟูและการการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจึงเป็นไปได้ยาก อุตสาหกรรมฮาลาลเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่น่าจับตามอง ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมฮาลาลได้มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว การแบ่งส่วนตลาดของอุตสาหกรรมฮาลาลไม่ใช่แค่กลุ่มผู้บริโภคมุสลิม แต่ได้ขยายไปสู่ผู้ที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมเช่นกัน (Halal for All) ทั่วโลกมีประชากรมุสลิมกว่า 1.9 พันล้านคน จากการวิจัยของ Dinar Standard ในปี 2562
ผู้บริโภคมุสลิมทัวโลกได้ใช้ใช้จ่ายสินค้าและบริการฮาลาล ประมาณ 2.02 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนของผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลประมาณ 1.13 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จากปี 2562 ถึง 2067 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องมูลค่าจะสูงถึง 1.38 ล้านล้านดอลลาร์ ต่อปีที่ 3.5 เปอร์เซ็นต์ [1]
มาเลเซียเป็นประเทศที่การเติบโตทางเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่นเดียวกันกับหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก เมื่อต้นปีท่าชผ่านมา รัฐบาลได้มีการสำรวจพิเศษเรื่อง ‘ผลกระทบของโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจและบริษัท/บริษัทธุรกิจ – รอบที่ 1’ พบว่า ธุรกิจในมาเลเซียประมาณ 67.8% ไม่ได้ทำยอดขายใดๆ ระหว่างคำสั่งควบคุมการเคลื่อนไหว (movement control order (MCO)) ที่บังคับใช้ครั้งแรกจาก 10 เมษายน ถึง 1 พฤษภาคม 2563” จากสถิติดังกล่าว ธนาคารแห่งมาเลเซีย (Bank Negara Malaysia (BNM)) ได้คาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของมาเลเซียลดลงเป็น 3-4% ตลอดทั้งปี 2564 เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 6-7.5% [2]
มาเลเซียมีประชากรมุสลิม 16 ล้านคน คิดเป็น 60 เปอร์เซ็นของประชากรทั้งหมด [3]จึงมีกำลังผลักดันความต้องการผลิตภัณฑ์ฮาลาลในประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีการแบ่งส่วนตลาดอุตสาหกรรมฮาลาลในประเทศ มูลค่าสูงถึงประมาณ 67.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะถึงประมาณ 96.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2573 [4] คิดเป็น 15% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของมาเลเซีย (GDP) [5] นอกจากนี้ ด้วยความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับตลาดมุสลิม โดยเฉพาะอินโดนีเซีย และหลายประเทศแถบตะวันออกกลางยังให้โอกาสการส่งออกที่แข็งแกร่ง มาเลเซียจึงเป็นผู้นำในเรื่องการผลิตอาหารฮาลาลของโลก ถึงแม้ในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 โดยในปี 2563 ที่ผ่านมามีมูลค่าการส่งออกอาหารฮาลาลประมาณ 7.5 พันล้านดอลลาร์ต่อปี หดตัวลงรวมประมาณ 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากประมาณ 9.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2562 [2]
จากความแข็งแกร่งมูลค่าตลาด อุตสาหกรรมฮาลาลจึงยังถือเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ทั้งนี้ Mr. Hairol Ariffein Sahari ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล จำกัด (Halal Industry Development Corporation (HDC) ได้กล่าวว่า ความสำคัญและคุณภาพของอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศจะทำให้อุตสาหกรรมฮาลาลกลายเป็นหนึ่งใน หนทางหลักในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยได้มีการเสนอความคิดริเริ่มหลายอย่างเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ฮาลาล และเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ รวมถึงการแนะนำแพลตฟอร์มดิจิทัลและบริการฮาลาลของ HDC เช่น Halal Parks, Halal Training Institute, Halal Consultancy and Advisory และ Halal Knowledge Centre ซึ่งแพลตฟอร์มเหล่านี้จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงของผู้บริโภค เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของการค้าดิจิทัล ผู้บริโภคเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อซื้อผลิตภัณฑ์และบริการ [3]