วิกฤต “โควิด-19” กลายเป็นโอกาสของ “สมุนไพรไทย” หลายๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็น ฟ้าทะลายโจร หรือ กระชาย เนื่องจากพบว่ามีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อโคโรน่าไวรัสซึ่งเป็นเชื้อที่ทำให้เกิดโรค โควิด-19 ได้ดี โดยเฉพาะ ‘ฟ้าทะลายโจร’ ถูกจัดเป็นหนึ่งในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร รักษาโรค โควิด-19 แล้ว [1]
ฟ้าทะลายโจร มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Andrographis paniculata (Burm. f.) Wall. ex Nees ประกอบด้วยสารสำคัญที่มีฤทธิ์รักษาโรค 4 ชนิด ได้แก่ สารแอนโดรกาโฟไลด์ (andrographolide), ดิออกซีไดดีไฮโดรแอนโดรกราโฟไลด์ (14-deoxy-11,12-didehydroandrographolide), นีโอแอนโดรกราโฟไลด์ (neo-andrographolide) และสารดิออกซิแอนโดรกราโฟไลด์ (14-deoxyandrographolide) การศึกษาทางเภสัชวิทยาพบว่าสารแอนโดรกาโฟไลด์สามารถต้านอักเสบ ต้านไวรัสหลายชนิด กระตุ้นภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด (Innate immunity) ทั้งการตอบสนองโดยการใช้สารน้ำ (Humoral immunity) และการตอบสนองชนิดพึ่งเซลล์ (Cell-mediated immunity) เช่น เพิ่มการจับกินเชื้อโรค (phagocytosis) ของเม็ดเลือดขาวชนิด macrophage ได้ [2] ในปัจจุบันรูปแบบยาฟ้าทะลายโจรในท้องตลาด พบได้ 2 รูปแบบ คือ ยาจากผงฟ้าทะลายโจร และยาจากสารสกัดฟ้าทะลายโจร ตามบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร, ฉบับที่ 2, 2564 การใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโรคโควิด 19 จะใช้เฉพาะโรคที่มีความรุนแรงน้อยและเพื่อลดการเกิดโรคที่รุนแรงเท่านั้น โดยรับประทานในขนาดยาที่มีปริมาณสารแอนโดรกาโฟไลด์ 180 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งยาฟ้าทะลายโจรในท้องตลาดควรมีการระบุปริมานสารแอนโดรกาโฟไลด์ไว้ข้างขวดด้วยเพื่อการกำหนดปริมาณการรับประทาน โดยแบ่งทานวันละ 3 ครั้ง (60 มิลลิกรัมต่อเม็ดต่อมื้อ) เป็นระยะเวลานาน 5 วัน [1] ไม่ควรทานติดต่อกันเกิน 5 วันต่อสัปดาห์ และไม่ควรทานต่อเนื่องเกิน 3 เดือน สำหรับผู้ป่วยที่ใช้ยาฟ้าทะลายโจรควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ควรซื้อเองตามอินเทอร์เน็ตเพื่อความปลอดภัยเนื่องจากอาจไม่มี อย. และยาฟ้าทะลายโจรไม่สามารถป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ จึงไม่ควรซื้อมากักตุน
อีกหนึ่งสมุนไพรไทยที่หลายคนจับตามองคือกระชาย กระชายมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Boesenbergia rotunda (L.) Mansf. จัดอยู่ในวงค์ขิงข่า (Zingibe-raceae) ตามตำรายาไทยจะใช้เหง้ากระชายช่วยขับลม ลดอาการท้องอึด ท้องเฟ้อ แก้ปวดมวนท้อง รักษาโรคในปาก ชาวบ้านทั่วไปใช้ประกอบอาหารเพื่อดับกลิ่นคาวของปลา เมื่อเร็วๆนี้ทีมวิจัยคนไทยค้นพบว่าสารสกัดจากกระชายขาวสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ได้ถึง 100% โดยสารสำคัญทั้ง 2 ตัวที่อยู่ในกระชายขาว คือ แพนดูราทิน เอ (Panduratin A) และ พิโนสโตรบิน (Pinostrobin) สารทั้งสองตัวนี้ในกระชายขาว สามารถทำหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ในหลอดทดลอง โดยสารทั้งสองตัวนี้สามารถลดจำนวนเซลล์ที่ติดเชื้อจาก 100% ได้ถึง 0% นอกจากนี้ยังสามารถยับยั้งเซลล์ในการผลิตไวรัสได้ถึง 100% อีกด้วย [3] ในขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยมหิดล และศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELS ยังอยู่ในระหว่างการทดลองเก็บข้อมูล ยังไม่มีการผลิตยาใดๆ ออกสู่ตลาด อย่างไรก็ตามหากต้องนำมาใช้กับผู้ป่วยจริง ๆ การค้นคว้านี้ยังคงอยู่ภายใต้การทดลอง เพื่อพัฒนาให้มีความปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้มีผลจากการศึกษาน้ำคั้นจากเหง้ากระชายสด พบว่าไม่ก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อเซลล์เม็ดเลือดแดงในไขกระดูก และในเลือดของหนูขาวเมื่อทดสอบด้วยวิธีไมโครนิวเคลียส แม้จะให้หนูในขนาดความเข้มข้นสูงถึง 600 mg/kg ต่อเนื่องกัน 30 วัน [4] จึงแนะนำให้ใช้เป็นพืชสมุนไพรที่รับประทานสดหรือคั้นน้ำในสภาวะปกติได้อย่างปลอดภัย
ในสถานการณ์แบบนี้หากมองเข้าไปในครัวบ้านเราเอง สมุนไพรที่เรากินอยู่แทบทุกวันก็สามารถเสริมภูมิคุ้มกันของเราได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นหัวหอมแดง กระเทียม กระชาย ขิง ข่า ตะไคร้ เป็นต้น สมุนไพรไทยเหล่านี้ก็มีสรรพคุณหลักคล้าย ๆ กัน คือ ช่วยบรรเทาอาการไอ แก้หวัด คัดจมูก นอกจากนี้ยังมีสารสำคัญ เช่น อัลลิซิน (Allicin) เคมเฟอรอล (kaempferol) จินเจอรอล (gingerol) เควอซิติน (quercetin) ที่มีส่วนช่วยต้านการอักเสบ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย สุดท้ายหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้อ่านจะดูแลตนเองเพื่อส่วนรวมร่วมกับการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงให้ครบโดสซึ่งเป็นวิธีป้องกันที่ควรปฏิบัติ
การใช้ยาฟ้าทะลายโจรมีข้อควรระวังดังนี้ [1]
- หากมีอาการจากการติดเชื้อแบคทีเรียไอ เจ็บคอ มีไข้ หนาวสั่น หรือมีตุ่มหนองในไม่ควรใช้ยาฟ้าทะลายโจร
- ไม่ควรทานร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาแอสไพริน ยาลดความดัน โคลพิโดเกรล และวาร์ฟาริน
- ไม่ควรทานเป็นเวลานานกว่ากำหนดเพราะอาจทำให้แขนขาเกิดอาการอ่อนแรง
- หากมีอาการแพ้ เช่น ผื่นขึ้น หายใจลำบาก หน้าบวม ริมฝีปากบวม ให้หยุดทานยาฟ้าทะลายโจรทันที
- หากภายใน 3 วันอาการยังไม่ดีขึ้นควรเข้าพบแพทย์อีกครั้ง
- ยาฟ้าทะลายโจรไม่ควรใช้ในสตรีตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
- ควรระวังการใช้ร่วมกับยาที่กระบวนการเมทาบอลิซึม ผ่านเอนไซม์ Cytochrome P450 (CYP) เนื่องจากฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ยับยั้ง CYP1A2, CYP2C9 และ CYP3A